Cannabidiol (CBD Oil)  : ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า CBD ทำงานอย่างไรในร่างกาย ถือว่าเป็นสารประกอบ “หลายเป้าหมาย” เพราะมันทำปฏิกิริยากับตัวรับหลายประเภทในร่างกาย นอกจากนี้ยังมี สารต้านอนุมูลอิสระ และ ฤทธิ์ต้านการอักเสบ นี่เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ดูเหมือนว่าจะมีการใช้งานที่หลากหลาย

แต่ CBD ไม่โต้ตอบกับร่างกายในลักษณะเดียวกับที่ THC ทำ นั่นเป็นเหตุผลที่ CBD ไม่ก่อให้เกิดอาการมึนเมา เช่นเดียวกับ THC ในความเป็นจริง CBD ดูเหมือนจะลดผลกระทบทางจิต ไม่เหมือนอย่าง THC และทำให้ความ “High”

CBD Oil มีประโยชน์อย่างไร :  ความวิตกกังวล , นอนไม่หลับ , การอักเสบ , ปวดเส้นประสาท , ความผิดปกติของการใช้สารเสพติด , อาการชักที่ไม่ตอบสนองต่อยาตามใบสั่งแพทย์ 

สำหรับบางคน CBD Oil อาจทำให้เกิดผลขึ้น เมื่อคนคาดหวังว่า CBD Oil จะทำงาน แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำอะไรในร่างกายก็ตาม การศึกษาเกี่ยวกับความวิตกกังวล และความเจ็บปวด แสดงให้เห็นว่าเมื่อมีคนบอกว่าพวกเขาได้รับ CBD Oil  อาการของพวกเขาจะดีขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับ CBD Oil  ก็ตาม  ดังนั้นการเข้าถึง CBD Oil ด้วยคุณภาพ ถูกหลักตามอาหารและยา บวกด้วยความคิดเชิงทำให้เกิดประโยชน์อย่างมาก

วิธีที่ดีที่สุดในการใช้น้ำมัน CBD Oil และ CBD : น้ำมัน CBD มีหลายรูปแบบ และทำงานต่างกัน แบบที่พบมากที่สุด ได้แก่ :

• สูดดม (Vaping Or Smoking)
• หยดใต้ลิ้น (Under The Tongue)
• ช่องปาก (แคปซูล หรืออาหาร)
• เฉพาะที่ (ครีม หรือโลชั่น)
• Transdermal (แผ่นแปะ หรือเจล ครีม เพื่อให้ผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด)

การสูดดม CBD ได้ผลเร็วที่สุด แต่ผลกระทบจะอยู่ได้ไม่นานนัก ผู้คนจึงมักเลือกที่จะสูดดมสาร CBD เมื่อพวกเขาต้องการการบรรเทาอย่างรวดเร็ว เช่น ความวิตกกังวล หรือกล้ามเนื้อกระตุก แต่การสูดดมสาร CBD อาจเป็นอันตรายต่อปอดของคุณดังนั้นจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี 

CBD ในรูปแบบอมใต้ลิ้น และช่องปากใช้เวลานานกว่าในการทำงาน (1 ถึง 2 ชั่วโมง หรือมากกว่า) แต่ก็จะใช้เวลานานขึ้นเมื่อมีผล ดังนั้นจึงอาจดีกว่าสำหรับอาการต่อเนื่องที่ต้องได้รับการรักษาเป็นเวลานาน เช่น อาการปวดเรื้อรัง

CBD ในช่องปาก และใต้ลิ้น บางรูปแบบใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า สูตรนาโน สิ่งนี้ทำให้ร่างกายของคุณดูดซึมได้เร็วขึ้น ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้เวลานานในการทำงาน แต่พวกเขาจะไม่นานเช่นกัน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจเป็นทางเลือกที่ดีแทน CBD แบบสูดดม เนื่องจากทำงานได้ค่อนข้างเร็ว และใช้เวลาไม่นาน

CBD สำหรับ ใช้งานได้บนพื้นผิวของผิวหนังเท่านั้น ดังนั้นจึงดีที่สุดสำหรับสภาวะที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง แต่ก็มีแผ่นแปะ เจล และครีมบางชนิดที่ผลิตขึ้น เพื่อให้ผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด (ผลิตภัณฑ์จากผิวหนัง) สิ่งเหล่านี้ อาจมีประโยชน์สำหรับอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือข้อต่อ เมื่อนำไปใช้กับบริเวณที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ไม่มีหลักฐานมากมาย ที่อยู่เบื้องหลังการใช้

ใช้ CBD Oil ปริมาณที่เหมาะสม : ไม่มีแนวทางการใช้ยาที่เป็นสากล เกี่ยวกับปริมาณน้ำมัน CBD ที่คุณควรใช้ การศึกษาเกี่ยวกับ CBD ได้พิจารณาปริมาณตั้งแต่ 16 มก. ถึง 1,000 มก.

สำหรับความเจ็บปวด แนวทางการใช้ยาทั่วไป คือเริ่มต้นด้วย 5 มก. ของ CBD วันละสองครั้ง จากนั้นคุณสามารถเพิ่มขนาดยาได้ 10 มก. ทุก 2 ถึง 3 วัน จนถึง 40 มก. ต่อวัน 

งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าปริมาณ CBD ที่สูงขึ้น ( 300 มก. ถึง 600 มก. ) อาจดีกว่าสำหรับความวิตกกังวล จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์ เพื่อระบุขนาดยาที่มีประสิทธิภาพ สำหรับสภาวะต่าง 

โดยทั่วไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้เริ่มด้วยปริมาณ CBD ที่ต่ำและค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป วิธีนี้ช่วยให้คุณพบขนาดยาที่เหมาะกับคุณ และช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงด้านลบ แต่อย่าลืมพูดคุยกับผู้ให้บริการ ด้านการดูแลสุขภาพ ก่อน เพื่อให้เขาสามารถช่วยคุณเลือกขนาดยาที่เหมาะสม กับความต้องการของคุณได้

ผลข้างเคียงของน้ำมัน CBD ที่อาจะเกิดขึ้นโดยทั่วไป : CBD และ CBD Oil นั้นยอมรับได้ดี แต่ก็มีผลข้างเคียง และความเสี่ยงที่ต้องระวังที่พบ ความเหนื่อยล้า , ท้องเสีย , คลื่นไส้อาเจียน , ความอยากอาหารลดลง , การเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก

ผลข้างเคียงเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับในปริมาณที่สูงขึ้น และมักจะหายไปตามกาลเวลา เมื่อร่างกายของคุณปรับตัวเข้ากับ CBD แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ให้พิจารณาลดปริมาณ CBD ลงไปก่อนจากที่คุณได้รับ คุณยังสามารถพูดคุยกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณเพื่อขอคำแนะนำ

ในบางกรณี CBD Oil อาจทำให้ เอนไซม์การทำงานของตับ หรือ เอนไซม์ตับ (Liver Enzyme) ของคุณสูงขึ้น สิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นไปได้มากขึ้นเมื่อมี CBD ในปริมาณสูง หรือเมื่อใช้ยาบางชนิด หากคุณสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางลบ ในอารมณ์ของคุณ หลังจากที่คุณเริ่มใช้ CBD ให้ติดต่อผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณทันที

น้ำมัน CBD Oil ปลอดภัยสำหรับเด็กหรือไม่ : CBD รูปแบบเดียวที่ได้รับการศึกษา และรับรองสำหรับอาการชักในเด็ก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์ CBD ทั้งหมดจะปลอดภัยสำหรับเด็ก ตามที่กล่าวไว้ ผลิตภัณฑ์ CBD ที่ขายแบบ Over-the-counter (OTC) ไม่ได้รับการควบคุมอย่างดี อาจมีสารกำจัดศัตรูพืช และโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อเด็ก นอกจากนี้ยังมีการวิจัยไม่เพียงพอที่จะทราบว่า CBD สามารถส่งผลต่อสมองที่กำลังพัฒนาได้อย่างไร

มีความสนใจอย่างมากใน CBD ในการรักษาที่เป็นไปได้สำหรับเด็กที่มีความวิตกกังวล โรคออทิสติกสเปกตรัม และมะเร็งสมองบางประเภท แต่จนกว่าเราจะมีข้อมูลเพิ่มเติม ยังไม่ชัดเจนว่า CBD ปลอดภัย หรือมีประสิทธิภาพสำหรับเงื่อนไขเหล่านี้หรือไม่

หากคุณสนใจให้ CBD เป็นทางเลือกการรักษาสำหรับบุตรหลานของคุณ วิธีที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำ

CBD Oil ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับโรคลมชักบางประเภทในเด็ก นอกจากนี้ยังมี OTC ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในรูปแบบยาต่างๆ มีหลักฐานบางอย่างว่า CBD Oil อาจช่วยในเรื่องความวิตกกังวล ความเจ็บปวด และการนอนหลับ 

นอกจากนี้ยังอาจช่วยในเรื่องภาวะซึมเศร้า และความผิดปกติในการใช้สารเสพติด แต่มีข้อมูลทางคลินิกไม่มากนัก ที่จะรู้ว่าปริมาณหรือรูปแบบใดของ CBD ได้ผลดีที่สุด

ผลิตภัณฑ์ CBD ที่ขายแบบ Over-the-counter (OTC) ไม่ได้รับการควบคุมที่ดี ดังนั้นโปรดใช้ความระมัดระวังเมื่อซื้อ ทางที่ดีควรพูดคุยกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณก่อน ที่จะเริ่มใช้ CBD พวกเขาสามารถช่วยคุณหาขนาดยาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ และคัดกรองปฏิกิริยาระหว่างยาที่เป็นไปได้